เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง Instagram ออก Reels ให้ผู้ใช้งานในไทยได้ใช้งานกัน โดย Reels จะเป็น Content ที่เน้นวีดีโอสั้นเป็นหลัก ฟิลลิ่งการเสพ Content ของ Reels จะคล้าย ๆ กับ Tiktok แต่สิ่งที่ไม่เหมือน Tiktok ก็มีบ้างเหมือนกัน ในบทความนี้ มาวิเคราะห์กันครับว่า Reels ของ Instagram สามารถไปได้ไกลไหม และจะไม่แป๊กเหมือน IGTV ในบ้านเราหรือเปล่าครับ
แต่ก่อนอื่น เรามาวิเคราะห์ Reels กันก่อนครับ ว่ามีความแตกต่าง มีความเหมือน หรือมีอะไรที่เราควรจะรู้บ้างครับ
Reels ไม่เหมือน Tiktok

สำหรับ Tiktok เป็น Social Media ที่เน้นการลงวีดีโอสั้นเป็นหลัก โดยการเสพ Content ถ้าเราไม่ได้ติดตามใคร ก็จะเอา Content ของคนที่ติดตามเยอะ ๆ มาให้ดูก่อน และการอัพโหลดวีดีโอสามารถทำได้หลากหลายมาก แม้แต่เอาภาพที่เราถ่ายมาร้อยเรียงเป็นวีดีโอใน Tiktok ได้ด้วย
และที่สำคัญคือ Effect ของ Tiktok คือดีมาก มีให้เลือกเยอะ แต่ Effect ของ Tiktok ที่เราดูมา บางอันดูเยอะเกินไป ถ้าใช้แต่พอดี ก็ดี แต่ถ้าใช้แบบเวอร์วังเกินไป จะกลายเป็นว่า ใส่เยอะ และรู้สึกไม่โอเคในสายตาของคนมีคลาส ซึ่งในต่างประเทศ คนเล่น Tiktok กันเยอะมาก และรสนิยมในการทำไฟล์วีดีโอใน Tiktok ก็ทำออกมาพอดีและลงตัวเลยทีเดียว
ส่วน Reels มีข้อจำกัดที่เยอะกว่า Tiktok แต่ถ้าใครเล่น Instagram มาอยู่แล้ว และอยากเล่น Reels เรื่อง learning Curve วางใจได้เลยครับ เพราะ Learning Curve ของ Reels สำหรับคนเล่น Story ใน IG มาก่อนแล้ว คือแบบว่า ไม่ต้องเรียนรู้อะไรเยอะ
แต่ข้อสังเกตสำหรับ Learning Curve จากคนเล่น IG ที่เล่น Story คนที่เล่น Story สายอัดวีดีโอหน้าตัวเอง หรืออัดวีดีโออยู่แล้วจะง่ายมาก แต่ถ้าเป็นสายกด “สร้าง” หรือ “Create” ในภาษาอังกฤษ แล้วก็พิมพ์อะไรเยอะแยะ หรือสายแชร์จากโพสต์ของคนที่เราติดตาม อย่างพวกไอดอลที่เราชื่นชอบ แล้วก็แชร์ แล้วหวีดด้วยความรัก พอมาเล่น Reels คงยากนิดนึงครับ หรืออาจจะเล่นแต่ Story เพียงอย่างเดียว
ดังนั้น การเล่น Reels ของใครบางคน อาจจะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
และความเหลื่อมล้ำที่มีชัดเจนคือ กล้องมือถือ ต้องดี ย้ำว่าต้องดีเลย ถ้าเป็น iPhone รุ่นใหม่ ๆ อย่าง 12 ไม่ต้องกังวลครับ แต่ถ้าเป็น iPhone รุ่นเก่า ๆ หน่อย จะมีปัญหาเรื่องการถ่ายด้วยกล้องหน้า หรือกล้องหลัง ที่ Neural Engine ของกล้อง iPhone อาจทำได้ไม่ดีพอ ส่วน Android ถ้ากล้องดี ก็มีชัยไปกว่าครึ่งครับ เพราะเอาเข้าจริง ๆ มือถือ Android รุ่นกลางและรุ่นเรือธงในปัจจุบันทำกล้องออกมาดีอยู่แล้ว และดีมากด้วย
สาเหตุที่ต้องให้กล้องมือถือดี ๆ เพราะ Reels ไม่มีให้อัพภาพแล้วเอามารวมกันเป็นคลิปวีดีโอเหมือน Tiktok ครับ
Reels มันคือ Story + Story + … + Story

แม้ว่าการใช้งาน Reels จะคล้าย ๆ กับ Story แต่เอาจริง ๆ มันก็ไม่ได้เหมือน Story ซะทีเดียว ถ้าจะให้เทียบ การถ่ายคลิปลง Story เหมือนกับเรากำลังนำเสนอเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น จะทานมาม่าเกาหลีแล้วนะ แล้วก็จบ Story แรก ต่อด้วย Story ที่ 2 คือ ถ่ายคลิปเรากำลังกินมาม่าเกาหลี
แต่ถ้าเป็น Reels มันต้องมีเนื้อหาตั้งแต่ทำมาม่าเกาหลี, โชว์มาม่าเกาหลีที่เสร็จแล้ว, ทานอาหารเกาหลี และจบในคลิปเดียว ไม่เกิน 30 วินาที อะไรแบบนี้
ให้คิดง่าย ๆ มันเหมือน Part ๆ หนึ่งของคลิป YouTube ครับ ถ้าเข้าใจก็ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ
ปัญหาตอนนี้ … เราไม่สามารถบันทึกคลิปอื่น ๆ ใน Reels ลงในมือถือได้
ถ้าใครเคยเห็นคลิปจาก Tiktok จะเห็นลายน้ำโลโก้ Tiktok วิบ ๆ วับ ๆ อยู่เสมอ ซึ่งเหมือนเป็น Signature ไปแล้ว และทำให้เรารู้ที่มาของคลิปนี้ได้ด้วย แต่ใน Reels ไม่มีให้ดาวโหลดคลิปครับ มีแต่บันทึกไว้ดูส่วนตัวในแอพ ไม่ได้บันทึกลงเครื่องมือถือเหมือน Tiktok ทำให้การเผยแพร่ตามสิ่ง Social Media อื่น ๆ ทำไม่ได้ ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นเจตนารมณ์ของ Instagram อยู่แล้วที่ไม่ได้เปิดโอกาสให้เซฟภาพหรือวีดีโอใน Instagram ลงมือถือของแต่ละคน แม้แต่ก็อปรูปลง PC ที่เปิด Instagram ผ่าน Web browser ยังทำไม่ได้แบบปกติ ต้องใช้วิธีการถ่ายหน้าจอเท่านั้น
แล้วถ้าคลิปนั้นเป็นคลิปที่ส่งผลต่อสังคมจนคนอื่นอยากจะแชร์ต่อ ก็เป็นเรื่องยากครับ
คนจะเข้ามาเล่น Reels มากขึ้นไหม
ด้วยกระแสวีดีโอสั้นในตอนนี้ที่ฮอตมาก ๆ และบางคนก็จงรักภักดีกับ Platform ใด Platform หนึ่งอยู่แล้ว ทำให้การมาของ Reels ในประเทศไทยค่อนข้างน่าสนใจ แต่ดูเหมือนว่า เวลาเราจะเล่น Social Media อะไรก็ตามแต่ เราจะเล่นตาม Content Creator, Influencer ที่เราติดตามทั้งนั้น ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับ Influencer แล้วครับว่าจะเล่น Reels กันไหม เพราะถ้าเล่น เดี๋ยวคนอื่นเค้าก็เล่นตามกันเรื่อย ๆ แต่ถ้า Influencer ที่ยังเล่น Tiktok อยู่ แต่ไม่ได้เล่น Reels ก็คงไม่ค่อยมีใครเล่นเท่าไร
และอย่าลืมว่า ไม่ใช่ทุกคนที่เคยเล่น Story เค้าจะเล่น Reels ได้ เพราะอย่างที่บอก Reels มันเหมาะกับคนที่มีมือถือกล้องดี ๆ และเป็นคนชอบทำ Video Content เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตัดต่อนิด ๆ หน่อย ๆ ก็โอเค พร้อมลงได้ แต่ถ้าพวกสายเล่น Story แบบเน้นพิมพ์ข้อความ ไม่ค่อยเหมาะกับ Reels เท่าไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทาง IG อาจจะออก Reels ที่เหมาะกับคนที่ชอบพิมพ์ในอนาคตแน่นอน ถ้าเค้าทำได้ ถือว่าดีเลยทีเดียว
ปัญหาของการเล่น Reels ในตอนนี้ที่ผมเจอ

ปัญหาที่ผมเจอจริง ๆ คือ กลุ่มคนที่เล่น Reels ในไทย ทั้งคนอัพวีดีโอ และคนเข้ามาดูของไทยยังน้อยอยู่ ในขณะที่ต่างประเทศมีเยอะเลย เท่าที่ดูมา ผมจะเห็น Reels ของเกาหลีซะส่วนใหญ่ นั่นหมายความว่า Reels ค่อนข้างบูมในเกาหลี ตัดภาพมาที่ไทย คลิป Reels แต่ละคลิปเหมือนคนเล่น Story ตามปกติ หรือบางคนเพิ่งเล่น หรือบางคนเอาคลิปที่ Export จาก Tiktok มาลงเลย
ซึ่งแนวคลิปของ Reels ที่ผมเห็นของต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นคลิปที่มีการคัทเรื่อย ๆ ครับ แต่ไม่ใช่แบบ Jump cut แบบนั้น คือคัทตามปกติเวลาดูคลิปอะไรก็ตามแต่ และบางคลิปก็เป็น VLOG พูดถึงไปที่นั้น ๆ จบในคลิปเดียวเลย ไม่มี Effect หวือหวาอะไร สามารถดูรู้เรื่องแม้ว่าจะไม่ต้องเปิดเสียงฟัง และที่สำคัญคือ ไม่ต้องใส่ตัวหนังสืออะไรเลย อย่างมากก็ใส่ Filter IG ลงไปก็พอ พวกตัวหนังสือมันอยู่ตรง Description แล้ว
ทั้งนี้ต้องรอพลังของ Influencer แล้วครับ ว่าเค้าจะเล่นกันเยอะขนาดไหน
Leave a Reply