พูดถึงพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำทีไร ผมจะมีความหลังเกี่ยวกับห้างแห่งนี้เสมอ เพราะเป็นหนึ่งในห้างที่ผมชอบเดินหลังจากเลิกเรียนในแต่ละวันตอนช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ผมโชคดีมากที่มีมหาวิทยาลัยที่ผมเรียนอยู่ตรงเขตพระนครพอดี ทำให้ผมสามารถเข้าเมืองกรุงเทพได้แทบจะทุกวัน แต่ผมก็ต้องทนกับสภาพรถติดที่มันมีมาหลายปีแล้วจนถึง ณ ตอนนี้ มันก็ยังเหมือนเดิม แม้ว่ารถไฟฟ้าจะมีหลายสาย แต่ก็ยังเหมือนเดิมจริงๆ
เวลาเราพูดถึงกรุงเทพ คนในครอบครัวก็จะสายหน้าหนีแล้วบอกว่าเป็นเมืองที่วุ่นวาย แต่ผมไม่ได้คิดแบบนั้น
ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำกันครับ
ครั้งแรกที่ไปพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำ
พันธุ์ทิพย์ประตูน้ำมีชื่อเสียงในเรื่องของแหล่งขายเทปผีซีดีเถื่อนมานานแล้ว จนถึงปลายยุคของพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำก็ยังมีให้เห็นอยู่ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ใครหลายหลายคนต้องนึกถึงพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำคือเพลง “พันธุ์ทิพย์” ของเสกโลโซ
แต่ครั้งแรกที่ไปพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำผมไม่ได้ไปซื้อของอย่างว่า ผมไปกับพ่อเพื่อไปซื้อตัวเขียนแผ่นซีดีสำหรับเครื่อง Mac โดยเฉพาะ ต้องท้าวความก่อนว่าในสมัยก่อนอุปกรณ์เสริมที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ Mac มีน้อยมากๆ แล้วแหล่งไอทีในยุค 2000 ก็มีไม่กี่ที่ ที่ที่พ่อไปบ่อยบ่อยก็เป็นเสรีเซ็นเตอร์ แต่ในเมื่อเสรีเซ็นเตอร์มันไม่มีอุปกรณ์เสริมเพื่อใช้กับคอมพิวเตอร์ Mac ก็เลยต้องไปที่ที่ว่ากันว่ามีของแท้ทุกอย่าง ซึ่งนั่นคือพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำ
แต่ ภาพจำครั้งแรกของพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำที่ไม่อยากจะเยือนอีกคือการจอดรถที่ยากมาก ๆ พ่อของผมต้องวนรถหลายรอบกว่าจะได้จอด และรถในตอนนั้นเป็นรถที่หมุนยากมากด้วย เลยกว่าจะจอด ก็ใช้เวลาหลายนาทีอยู่ ซึ่งกว่าจะมาก็ยากอยู่แล้ว เพราะแถวนั้นโคตรรถติด และเลนรถที่มาก็แปลก ๆ มันเป็นทางกึ่งวันเวย์ ซึ่งด้วยความที่พันธุ์ทิพย์ประตูน้ำมันเข้าถึงยากแบบนี้ ทำให้น้อยคนเริ่มจะมาที่พันธุ์ทิพย์กันครับ
ซึ่งอย่างที่บอก พ่อของผมซื้อตัวเขียนแผ่น CD แบบ External ของ Imation ตอนนั้นการไรท์แผ่นยังช้าและอืดอาดอยู่ ความเร็วในการเขียนมีแค่ 4x เท่านั้น ช้ามาก ๆ และยุคนั้น สื่อบันทึกข้อมูลอย่าง Flash Drive หรือ Cloud ยังไม่มีเลย การบันทึกอะไรก็ตามเป็นเรื่องที่ยากเวอร์ ๆ
แต่ตอนนั้นยังเป็นเด็ก แล้วตัวผมยังไม่รู้อะไร ตอนนั้นจำได้อยู่ ป.5 หรือ ป.6 เลยมั้ง
10 ปีต่อมา
ตอนนี้ผมเรียนมหาวิทยาลัยแล้วครับ
การเดินทางไปกลับของผมช่วงปี 1, ปี 2 ต้องนั่งรถเข้าเมือง ใช้เวลานานเลย และพอช่วงปี 3, 4 ผมเริ่มอยากจะเที่ยวสยามบ้างแล้ว เพราะโดยปกติ เวลากลับบ้าน ผมผ่านสยามเป็นประจำ และเวลาไปสยาม ก็จะเจอแต่ของอะไรอร่อย แล้วด้วยคำถามที่ว่า “สยามมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง” ผมเลยตื่นเต้นอยากไปตรงนี้มากครับ
แต่สิ่งที่ทำให้ผมได้เจอกับพันธุ์ทิพย์ คือ ทางเดินทะลุไปอีกฝั่งจาก Siam Paragon น่าเสียดายที่ตอนนี้ทางเดินดังกล่าวปิดไม่ให้ผ่าน เพราะเป็นทางเข้าโรงแรมที่สร้างคั่นกลาง ซึ่งถ้าจะเปิดต้องรอให้การสร้างโรงแรมเสร็จก่อน โดยปกติ ผมจะไปพันธุ์ทิพย์ด้วยทางนี้เสมอ (ถ้าผ่านสยาม) แต่ช่วงปี 3 ผมเปลี่ยนการกลับบ้านจากนั่งรถสาย 48 ผ่านสยาม มาเป็นนั่งรถสาย 2 ซึ่งผ่านพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำพอดี
โดยช่วงที่ผ่านพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำ ผมชอบแวะมาที่พันธุ์ทิพย์ประจำ ตอนนั้นยังมีร้านหนังสือดอกหญ้า และ JIB ที่ร้านยังไม่ใหญ่เหมือนขนาดนี้ ตอนนั้นวงการเกมมิ่งเกียร์ยังไม่บูม บางร้านเริ่มเอาเมาส์เล่นเกมมาขายแล้ว ซึ่งราคาแพงใช้ได้ ที่ผมไปเพราะผมอยากจะลูบ ๆ คลำ ๆ เมาส์เล่นเกมเหล่านั้นครับ เพื่อเอามาเล่นเกมออนไลน์ในคอมพิวเตอร์
แต่พอเดินจากพันธุ์ทิพย์เสร็จ ผมเดินไปอีก ไป Central World ซึ่งผมชอบเดินตั้งแต่ปี 2011 ผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว Central World เปลี่ยนไปมากครับ และร้านอะไรหลาย ๆ อย่างก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น 5555
ในช่วงปี 2011 ต้น ๆ ร้านในพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำมีเยอะเลยครับ คนอินเดียชอบขายของเป็นประจำ พวกร้านตู้ต่าง ๆ ก็มีเยอะ ส่วนร้านคอมที่เอาคอมเล่นเกมมาให้ลองเล่นก็มี อย่าง Jedi ซึ่งเหมือนเป็นสวรรค์แห่งความ IT เลยก็ว่าได้
และหนึ่งในตำนานที่ไม่ลืม คือ เคบับหน้าพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำครับ เสียอย่างเดียว เคบับที่นี่แอบเหม็นเขียวตรงผัก 55555 แต่ถ้ากินด้วยความหิว จะลืมเรื่องความเหม็นเขียวไปเลย อีกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์คือร้าน A&W ที่อยู่คู่กับพันธุ์ทิพย์มานาน จนตอนนี้หายไปแล้ว
ยุคที่พันธุ์ทิพย์ประตูน้ำกลับมารีโนเวทอีกรอบ
จริง ๆ พันธุ์ทิพย์ประตูน้ำก็พยายามเรียกคนให้เข้ามาเที่ยวในห้างแห่งนี้กัน ซึ่งล่าสุดวันที่ประตูน้ำก็ได้ยินปรับปรุงหลายส่วนเพื่อให้ตามเทรนด์ของห้างดัง ๆ มากขึ้น ถามว่าการรีโนเวทของพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำทำได้ดีไหม ผมบอกว่าดีพอสมควร ดีมากๆด้วย จนผมไม่นึกเหรอว่านี่คือพันธุ์ทิพย์จริง ๆ
โดยการ Renovate ก็จะมี โซน Esports, โซน IT, โซน Gaming, โซนร้านอาหาร, โซน Co-working space ฯลฯ ซึ่งทางพันธุ์ทิพย์ก็พยายามอย่างสุดฝีมือแล้ว แต่สุดท้าย ร้านต่าง ๆ ต่างทะยอยปิดกัน และในที่สุด ก็ต้องปล่อยเป็นตำนานไป
เหตุผลที่คนไม่ค่อยเดินห้างพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำในช่วงหลัง ๆ
Location ไม่เอื้ออำนวย เพราะโดนปิดทาง
อันนี้คือปัญหาหลักของการมาที่ห้างแห่งนี้เลยครับ การเดินทางมาที่นี่ ถ้าสะดวกที่สุด ให้ลง BTS ตรงสยาม แล้วเดินเข้าช่องทางลับใน Siam Paragon แต่เนื่องจากช่องทางลับนี้โดนปิด เพราะกำลังก่อสร้างโรงแรม ทำให้คนเดินเข้าพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำยากมากขึ้น จนในที่สุด ห้างแห่งนี้ไม่ค่อยมีคนเดิน
ถ้าจะไปโดยลงจาก BTS สยาม ต้องเดินอ้อมฝั่งราชเทวี หรือไป Central World แล้วต้องเดินผ่าน Platinum Fashion Mall อีก ซึ่งมันเป็นอะไรที่ยากและเสียเวลามาก
พูดถึง Fortune Town

ผมไม่รู้ว่าจะเรียกว่าคู่แข่งดีไหม แต่การเดินทางมา Fortune Town สะดวกกว่ามาก โดยลง MRT ไปพระราม 9 ซึ่งที่แห่งนั้นก็จะมีห้าง Central Grand Rama 9 คู่กันด้วย และถ้าเดินตามทางของพระราม 9 ก็ได้ไปแถว RCA อีก ซึ่งใน Fortune Town ก็เป็นแหล่ง IT มานานแล้วเช่นกัน แต่ความหลากหลายจัดเต็มจริง ๆ มีทั้งร้าน McDonald’s, KFC และก่อนหน้านั้นก็มีร้าน Pizzeria ซึ่งร้านแถว Fortune Town ก็มีความหลากหลายและจำนวนร้านก็เยอะกว่าด้วย
การมาของร้านค้าออนไลน์ และ COVID-19
ร้านค้าออนไลน์เป็นตัวแปรสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ หลัง ๆ มา เวลาผมซื้อของอะไรก็ตาม ผมสั่ง Online หมดแล้ว เนื่องจากตอนนี้ผมอยู่ที่ต่างจังหวัด ส่วนคนในกรุงเทพ บางคนก็สั่งผ่าน Online เช่นกัน เพราะถ้าบวกค่าเดินทาง ก็แพงเอาเรื่องอยู่ แถมไม่รู้ว่า เวลาไปถึงที่จริง ๆ มีของหรือเปล่า หรือต่อให้ไม่มีของ แล้วของที่ขายหน้าร้าน แพงกว่า Online ไหม
ซึ่งประสบการณ์ซื้อของตามร้านปกติแบบ Walk In หลัง ๆ มาของเริ่มแพงมากขึ้นแล้ว แต่ไม่ได้แพงอย่างน่าเกลียด เช่น ตัว Adapter ที่ใช้กับโน้ตบุ๊ค แต่ละอันราคา 300 กว่าบาท แต่พอขายจริง ๆ หน้าร้าน เป็น 700 กว่าบาท ซึ่งราคาแรงเอาเรื่องเลย
แล้วถ้าจะมีของจริง ๆ แบบ Walk In ต้องไปตามงานอย่าง Commart ครับ
ในย่านนั้นไม่มีแหล่งที่เดินต่อ

เมื่อก่อนอ่ะ มี คือเดินเข้าซอยลับเพื่อไป Siam Paragon แต่ตอนนี้ ดันไม่มี บางคนที่หลงใหลในการเดินก็ไม่อยากจะมาพันธุ์ทิพย์กันเพราะฟิลลิ่งมันไม่ต่อเนื่อง คือผมชอบเวลาไปพันธุ์ทิพย์แล้วเดินเข้าซอยเพื่อไป Siam Paragon มาก ๆ ครับ แต่อย่างที่บอกไป ที่นั้นยังปิดอยู่ เสียดายเลย
ร้าน IT ชั้นนำกระจายเปิดในหลาย ๆ ห้าง
ร้าน IT ในประเทศไทยที่ดัง ๆ ก็จะมี Banana IT, IT City, JIB, Mine, Ace, ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันกระจายเปิดในหลาย ๆ ที่ ไม่ได้กระจุกอยู่ที่ห้าง IT อย่างเดียว ซึ่งใครที่อยู่ใกล้ ๆ ก็ไปที่ห้างใกล้ ๆ แถวนั้นได้ และในปัจจุบัน การเดินทางเข้าเมืองกรุงเทพยากลำบากมาก ทำให้ไม่มีใครอยากจะเข้าเมืองกัน ต่อให้เข้าเมือง ก็เสียเงินค่าเดินทางค่อนข้างเยอะเอาเรื่อง
แล้วห้างอย่างพันธุ์ทิพย์ควรกลับมาอีกไหม
ผมมองว่า ถ้าเป็นแหล่ง IT อย่างเดียวเลย คงไม่แล้ว ต้องเป็นห้างที่มีอะไรมากกว่าการเดินห้าง เป็นแหล่งรวมความวาไรตี้ที่มีไม่สิ้นสุด ซึ่งตัวอย่างที่ชัดเจน คือ จาก Central World มาที่ MBK ซึ่งจากที่ผมเดินห้างจริง ๆ ผมต้องการอะไรที่หลากหลายมาก และเดินแล้วสนุก เดินต่อได้เรื่อย ๆ และอีกอย่าง ทางเท้าตรงย่านที่ผมบอกทำออกมาดีมาก ๆ เดินสะบาย เดินได้ยาวนาน ซึ่งเป็นอะไรที่ชอบมาก และเวลามากรุงเทพทีไร ผมก็ต้องเดินตรงนั้นเสมอ
ยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้ว ห้าง IT โดยเฉพาะไม่ได้อินเทรนด์ขนาดนั้น เวลาเราจะซื้อของ IT ในปัจจุบัน ไปที่ห้างใกล้ ๆ บ้านก็โอเค อย่างบ้านผมที่อยู่กรุงเทพ อยู่แถวบางนา เวลาจะไปห้างที่ใกล้ที่สุด คือ Central Plaza Bangna ซึ่งตรงนั้นก็มีร้าน JIB, Banana IT และ Powerbuy ซึ่งราคาที่ขายก็ไม่ต่างกันมาก และไม่ต้องเสียค่าเดินทางอะไรเยอะ ๆ ด้วย
แต่ถามว่า น่าเดินไหม ก็ไม่ได้น่าเดินเท่าไร เพราะทางที่ไปต่อ คือ Big C ซึ่งไม่มีอะไรให้น่าเดิน อย่างมากก็ขึ้นรถเมล์กลับบ้าน แต่แถว Central World, Siam มีอะไรให้น่าเดินเยอะมาก ๆ และน่าถ่ายรูปด้วย จึงไม่แปลกที่ผมชอบเดินตรงนั้น
คราวนี้มาพูดถึง Fortune Town แหล่งรวมสินค้า IT อีกแห่ง ผมพูดข้อดีมามากแล้ว มาพูดถึงข้อเสียกันบ้าง ข้อเสียคือ การเดินไปต่อมันไม่หลากหลายเท่าย่านสยาม อย่างมากก็ไปที่ Central Grand Rama 9 แล้วก็จบ แต่ถ้าจะใจร้ายใจดำ ไม่ต้องการไปร้านแบบ Walk in มันก็ไม่เหมาะเท่าไร
เหตุผลเพราะของบางอย่าง ราคาเป็นหมื่น ราคาหลายพัน จำเป็นต้องทดสอบการใช้งานก่อน ก่อนจะซื้อของจริง ๆ เรื่องนี้สำคัญมาก ๆ ครับ ถึงต้องมี Apple Store ถึงต้องมีหน้าร้านแบบ Walk in เพื่อให้ทดลองใช้งานไง หรือพวกของที่ใช้ทางเทคนิค ยิ่งต้องถามใหญ่เลย
แต่ถ้าจะเปิดห้างแบบ IT โดยเฉพาะ ผมว่าแค่นี้คงพอแล้วมั้ง เน้นจัดเป็น Event อย่างงาน Commart ดีกว่า
Leave a Reply