แม้ว่าในโลกออนไลน์จะนำเสนอข่าวที่เป็นจริง เพราะสื่อหลักมีการบิดเบือนข่าว แต่อย่างน้อยคนทั่วไปก็ต้องพึ่งพิงและพึ่งพาสื่อหลักอยู่ดี การที่สื่อหลักนำเสนอข่าวที่บิดเบือนเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง แต่ถ้าเราจะมาพึ่งสื่อทางเลือก จากในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ที่แชร์กันว่อนก็ไม่ได้
ดังนั้นการถูกคนทั่วไปวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการทำงานสื่อหลักที่ไม่เหมาะสม ถือว่าเป็นเรื่องที่สื่อหลักควรคำนึงถึงได้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมถึงไม่สื่อโซเชียลมีเดียจะนำเสนอข่าวความจริงจนเราเข้าใจ แต่เราก็ยังต้องพึ่งสื่อหลักในการเสพข่าวอยู่ดี วันนี้เรามาเปิดเผยเหตุผลกันครับ
คนเราไม่ได้เข้าถึงสื่อทุกคน

เอาจริงๆถ้าเรามัวแต่เสพสื่อในโลกออนไลน์เพียงอย่างเดียวอาจจะเกิดปรากฏการณ์ Echo Chamber โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่ง Echo Chamber สำหรับคนที่เสพสื่อในโลกออนไลน์เพียงอย่างเดียวคือ เราไม่รู้ว่าคนที่ไม่ได้รับสื่อในโลกออนไลน์ เค้ารับสื่อแบบไหน
สิ่งที่เห็นชัดเจนคือเรื่องของการเมืองในต่างจังหวัด ที่เราเองก็งงว่าทำไมดันไปเลือกอีกฝ่าย ทำไมเขาไม่เลือกฝ่ายที่เราต้องการให้เค้าเลือก เหตุผลเพราะว่ารคนที่ไม่ได้ใช้มือถือหรือไม่มีกำลังซับมากพอที่จะเข้าถึงอินเตอร์เน็ตเลือกเสพสื่อผ่านทางสื่อหลักเป็นเรื่องปกติ
แม้ว่าความเร็วอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยถือว่าสูงที่สุดในโลก แต่อย่าลืมว่าที่สุดในโลกของไทยก็ยังมีอีกอันคือ “เหลื่อมล้ำที่สุดในโลก” ซึ่งความเหลื่อมล้ำที่สุดในโลกยังรวมไปถึงการเข้าถึงสื่อด้วย คนที่เข้าถึงสื่อในโลกออนไลน์ที่นำเสนอแต่ความจริงนั้นส่วนใหญ่เป็นคนที่มีเงิน มีอินเตอร์เน็ต เป็นคนเมืองที่มีมือถือ และสื่อทางเลือกส่วนใหญ่ในโลกออนไลน์ จำเป็นต้องใช้อินเตอร์เน็ตในการเข้าถึง ดังนั้นถ้าคนอยู่ในจังหวัดที่ห่างไกลจากความเจริญมาก ๆ ก็ไม่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต แต่เข้าถึงเฉพาะสื่อหลักเพียงอย่างเดียว
อำนาจและเงินทุนของสื่อหลักมีมากกว่าสื่อทางเลือก

ถ้าวัดกันดูแล้ว สื่อหลักหมีอำนาจและเงินทุนมากกว่าสื่อทางเลือกเยอะพอสมควร มันไม่ใช่แค่เงินทุนหรืออุปกรณ์ในการทำสื่อเพียงอย่างเดียว ยังมีเรื่องของบุคลากรมีเรื่องของบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ร่วมงานด้วย ไม่ใช่ทุกคนที่จะลงภาคสนามและนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ลองคิดดูมีไม่กี่คนที่สามารถนำเสนอสื่อได้ ลองเอาพวกสื่อทางเลือกไปนำเสนอข่าวสิ ในบางพื้นที่เจ้าของพื้นที่ไม่ให้สื่อทางเลือกนำเสนอข่าว แม้แต่จะเอากล้องเข้าไปถ่ายหรือไปทำรายงานอะไรต่าง ๆ ก็ทำไม่ได้เลย ส่วนสื่อหลักมีโอกาสนำเสนอข่าวในที่แห่งนั้น นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างที่เห็นว่าอำนาจของสื่อรักหมีมากกว่าสื่อทางเลือกอยู่แล้ว
อย่างเช่นงานต่างๆของวงไอดอล จะสังเกตว่าพวกสื่อหลักๆได้ทำสื่อ ได้ถ่ายรูปในงาน แต่พวก YouTuber หรือเจ้าของเพจที่ทำข่าวเกี่ยวกับไอดอลไม่สามารถถ่ายรูปในงานนั้นได้เลย เพราะว่าไม่ได้รับอนุญาต อีกอย่างคือไม่ได้เป็นสื่อหลัก
เป็นหน้าที่ของสื่อหลักที่ต้องปฏิบัติในการนำเสนอความจริง
หนึ่งในจรรยาบรรณของสื่อที่ต้องนำเสนอความจริงให้ประชาชนได้รับรู้ ไม่ใช่แค่ประชาชนเพียงอย่างเดียว แต่เป็นคนต่างประเทศด้วย แม้ว่าสื่อทางเลือกหรือสื่อออนไลน์มันมีอำนาจมากกว่าสื่อหลักในปัจจุบัน จนสื่อหลักเริ่มขาดทุนในการทำธุรกิจ แต่ความน่าเชื่อถือหรือเวลาพูดถึงอะไรก่อน ก็จะนึกถึงสื่อหลักเสมอ
สื่อในโซเชียลมีเดียยังไม่มีการคัดกรอง 100%

ถึงแม้ว่าทุกคนทำหน้าที่สื่อ แต่ก็ไม่ได้เป็นสื่อมืออาชีพ บางคนในโลกออนไลน์นำเสนอสิ่งที่เอียงข้างมากเกินไป และจรรยาบรรณบางอย่างก็ไม่ได้มีเหมือนสื่อหลัก บางคนเลือกที่จะใช้ภาษาส่วนตัวเหมือนกับว่าเค้าบ่นในมุมของตัวเองในโลกออนไลน์ แต่คนอื่นสามารถเข้ามาดูได้และแสดงความคิดเห็นได้ บางคนในโลกออนไลน์เลือกที่จะปกปิดตัวเองโดยการใช้รูปโปรไฟล์คนอื่นหรือสิ่งอื่นอื่นทีมไม่บ่งบอกว่าเป็นตัวเอง แล้วชื่อ Account ก็ใช้ชื่ออื่น ๆ จากนั้นก็นำเสนอข่าวหรือสิ่งที่ตัวเองคิด ซึ่งบางทีอาจจะมีการตอกไข่ใส่สีเพิ่มเติมเพื่อความแซบของการอ่านก็มี
ซึ่งอย่างหลังที่ผมพูดมันมีในสื่อหลัก จริง ๆ มันไม่ควรจะมีด้วยซ้ำ
ถึงแม้ว่าสื่อบางเจ้าจามีจรรยาบรรณครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเน้นไปที่ความสุภาพในการแสดงความคิดเห็นหรือการนำเสนอข่าว แต่หัวใจหลักสำคัญที่สุดของการนำเสนอข่าวคือ “ความจริง” ต่อให้พูดดีแค่ไหนผู้ประกาศข่าวหน้าตาดีเทียบเท่ากับดาราก็ตาม ถ้านำเสนอข่าวที่บิดเบือนและไม่เป็นความจริง สุดท้ายก็จะโดนด่าและลามไปถึงชื่อเสียงของสื่อนั้น
ซึ่ง ณ ตอนนี้ ชื่อเสียงของสื่อหลักมันป่นปี้จนบางคนเหมารวมว่าสื่อหลักทุกช่องไม่มีค่าแล้ว จนสื่อหลักบางช่องที่เค้าทำข่าวออกมาดีดีต้องโดนไปด้วย
ถึงเวลาแล้วที่สื่อควรปฏิรูปเพื่อสิ่งที่ควรเป็น
Leave a Reply