เนื่องจากช่วงนี้ Social media เครือ Facebook จำกัดการเข้าถึงอย่างรุนแรงมาก ๆ จากที่เคยโพสต์ในเฟสส่วนตัวแล้วมีคนกดไลค์ กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ไม่มีใครกดไลค์หรือไม่มีใคร Comment เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
เราเลยลองไป Comment พูดคุยกับคนอื่นบ้าง เพื่อหวังว่าให้เค้าเจอ Content ของเรา ปรากฎว่า ไม่เกิดขึ้น
มันเกิดอะไรกับ Facebook หรือ Instagram อันนี้ผมไม่รู้ จะว่าไป Social Media อย่าง Facebook กับ Instagram ในปัจจุบันเริ่มไม่เหมาะกับคนที่สร้าง Content ด้วยตัวเองแล้ว แต่เหมาะกับคนที่ชอบเสพเรื่องราวหรืออะไรที่ฉาบฉวยมากกว่า
ความรู้สึกแบบนี้ ผมเลยนึกถึงช่วงแรก ๆ ของการเล่น Social Media ของแต่ละเจ้า คือ “อยากโพสต์อะไรก็โพสต์ไปเลย”
แคร์ความรู้สึกตัวเอง แล้วก็โพสต์หรือบอกเรื่องราวจากใจตัวเองไปเลย
ทำให้เหมือนไดอารี่ (ที่เปิดให้คนอื่นเข้ามาดูได้)
เอาจริง ๆ เรื่องที่พูดได้ง่ายที่สุดคือเรื่องตัวเอง คนส่วนใหญ่ชอบพูดเรื่องตัวเองกัน
ในบทความเกี่ยวกับการจีบสาว ทริคที่หลาย ๆ คนสอนคือใช้วิธีให้ฝ่ายหญิงเป็นคนเล่าเรื่องตัวเองโดยให้ฝ่ายชายถามความรู้สึกด้วยคำถามปลายเปิด และปล่อยให้ฝ่ายหญิงเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของตัวเองไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายชายควรเป็นฝ่ายพูดน้อย ๆ แล้วฝ่ายหญิงปล่อยให้พูดเยอะ ๆ (หรือเปล่า)
แต่ใน Social Media เรื่องที่โพสต์เรื่องไหนที่มัน Clean หรือเจอเรื่องราวน่าแชร์ก็โพสต์ไปเลย คือถ้าคนไหนสนใจเหมือนกับเราเดี๋ยวมีคนมากดไลค์เอง
แต่มันต้อง Based on ความรู้สึกชอบของตัวเองก่อน
เอาจริง ๆ บางคนก็ชอบติดตามความเป็น Personality ของคน ๆ นั้น
แม้ว่าเราจะพูดถึงเรื่องอื่น แต่เอาเข้าจริง ๆ พอเราติดตามคน ๆ นั้นไปนาน ๆ เราก็อยากรู้ความเป็นไปของคน ๆ นั้น
ซึ่ง Content Creator ที่ดัง ๆ คนที่เข้ามาทำความรู้จักมักจะติดตาม Personality ของคน ๆ นั้น
เช่น น้องไอซ์ (นามสมมติ) เป็นสาวหน้าตาดี สไตล์ญี่ปุ่น ตัวเล็ก ๆ แต่ชอบอะไรที่น่ารัก ๆ ปุ่น ๆ นุ่ม ๆ น่าถนอม ชอบโพสต์รูปถ่ายของตัวเอง บางทีก็แชร์อาหารการกินที่น่าสนใจ และพอโพสต์บ่อย ๆ คนก็เริ่มรู้จักมากขึ้นในที่สุด ซึ่งหลาย ๆ คนชอบในความเป็นน้องไอซ์
แต่ปัญหาของบางคนที่เลิกติดตามคือ ตัวตนเปลี่ยน มัน Fake มันไม่ใช่ตัวเรา พอไม่ใช่ตัวเรา ก็กลายเป็นว่า คนติดตามเดิม ๆ เค้าเริ่มรู้แล้ว สุดท้ายก็จบ
จิตใจคนเปลี่ยนได้ทุกเมื่อ
ไม่ว่าจะเป็นคนทำ Content หรือคนดู เวลาที่เปลี่ยนไปตลอด จิตใจคนเราก็เปลี่ยนได้ทุกเมื่อ ไม่ใช่ทุกคนจะติดตามเราไปตลอดเวลา แต่ละคนการงานหรือความสนใจมันเปลี่ยนไป จากแต่ก่อนที่เข้ามาดูเพราะกำลังมองหา PS4 จนคนดูคนนั้นเค้ามี PS4 อยู่แล้ว สุดท้ายเลยไม่ต้องดู เพราะไม่รู้จะดูไปทำไม มี PS4 อยู่แล้ว
หรือคนดูก่อนหน้านั้นเป็นวัยรุ่นที่ไม่ได้คิดอะไร แต่พอเหตุการณ์การเมืองเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้เด็กคนนั้นสนใจเรื่องการเมืองมากกว่าสนใจเกม และอาจจะไม่กลับมาสนใจเกมอีก อะไรแบบนี้
หรือแม้แต่ตัวผมที่ก่อนหน้านั้นสนใจเรื่องการพัฒนาตัวเอง การลงทุน ก็เลยดู Podcast แนว ๆ นี้ แต่เวลาผ่านไป ผมเก็บความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองครบเรียบร้อยแล้ว และรู้ว่า การเข้างานสัมมนาบางงานมันไม่ตอบโจทย์ Connection ก็ไม่ได้ ไปเสียเวลาเปล่า จนปัจจุบัน ผมไม่ได้ดู Podcast นั้นอีก เนื่องจากอะไรหลาย ๆ อย่างมันออกแนวเดิม ๆ
มันจะมีไม่กี่คนที่พร้อมจะติดตามเราไปเรื่อย ๆ และคนที่ติดตามเราไปนาน ๆ ส่วนหนึ่งเพราะการแสดงออกของเราในโลกออนไลน์เป็นตัวตนของเราสูงมาก ไม่มีการโกหกอะไร กลายเป็นว่า คนเริ่มอยากติดตามเพราะ Personality มากกว่าการปรุงแต่งอะไรหลาย ๆ อย่างจนเสียความเป็นจริง
ถ้าวันไหนไม่อยากทำ Content เราก็ต้องพักบ้าง ลองให้เวลากับตัวเองสักพัก เหมือนเป็น Social Detox เพื่อเรียนรู้ว่า ตกลงเราต้องการอะไรกันแน่
ค้นพบตัวเองว่าเราชอบอะไร ถนัดอะไร
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผมในช่วงที่เบื่อ ๆ กับการทำ Content ถ้าจำผมได้ช่วงนึงผมบ้าอัพบล็อกไปเรื่อย ๆ แต่หลังจากนั้นก็หาย ที่หายเพราะผมค้นพบตัวเองแล้ววว่า ผมเป็นคนชอบพูดเรื่องราวต่าง ๆ หรือพูดคุยอะไรกับเพื่อน ๆ ที่สนใจเรื่องเดียวกันมากกว่า
เมื่อผมรู้แบบนี้แล้ว ผมไม่โกหกตัวเอง แม้ว่าเส้นทางการทำ Content สายพูดมันต้องเสียงเงินเยอะมากกว่าพิมพ์บล็อก แต่ผมเลือกที่จะลงทุน มันมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะไมค์ ฉากเขียว กล้อง โปรแกรมอัด แต่มันก็คุ้ม เพราะเรทการดูของ Content ประเภทวีดีโอแล้วพูดคุยก็มีเยอะมาก ๆ ซึ่งมีแต่ได้กับได้
ไม่ต้องตกใจว่าทำไมบางทีผมไม่อัพบล็อกเลย ก็แบบนี้แหละ
Leave a Reply