เนื่องจากเพจแนะนำการหาเงินเริ่มแชร์กระทู้นี้ ทำให้มีคนพูดถึงกันมาก เอาจริง ๆ เพจนั้นแชร์มานานแล้ว และผมเข้าไป Comment ในโพสต์ของเพจนั้นว่า “จริงเหรอ”
ล่าสุด เพจสาย Content ที่ผมติดตามก็แชร์กระทู้นี้

ผมอ่านกระทู้นี้นานมากแล้วนะ ตอนช่วงที่กระทู้นี้เริ่มตั้งใหม่ ๆ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว (และก็เอามาขุดอีกรอบ) ซึ่งสิ่งที่เขียนในกระทู้ทั้งหมดถ้าในเวลานั้น จริง 90% (คืออ่านตอน 3 ปีที่แล้ว เชื่อเลย) อันนี้ผมยืนยันว่า จริงครับ

โดยเนื้อหาหลัก ๆ ที่ผมอ่าน เจ้าของกระทู้บอกประมาณว่า ก่อนหน้านั้น ทำแล้วท้อ เพราะหวังพึ่งจากโฆษณาอย่างเดียว แต่พอทำไปทำมาเรื่อย ๆ มี Sponsor เข้ามาจ้าง และได้เงินมากกว่าเดิม ถ้าอยากทำ เราต้องมี Sponsor เพื่อได้รายได้อีกช่องทาง และควรมองว่าช่องทาง Sponsor คือช่องทางหลัก
แต่การหาเงิน YouTube ตามกระทู้นี้ในปี 2020 ผมพูดเลยว่า ไม่ได้อย่างที่เขียนแน่ ๆ
สิ่งไหนที่ผมเห็นด้วย
ก่อนที่ผมจะแย้ง ขอยกสิ่งที่ผมเห็นด้วยกับกระทู้นี้ใน Pantip ก่อนนะครับ
อย่าไปหวังพึ่งสปอนเซอร์นะครับ เพราะผมเริ่มจาก 3เดือน 3ร้อยบาท แล้วก็ทำมานานกว่าจะมีสปอนเซอร์เข้ามา เอาเป็นทำคลิปให้เป็นตัวคุณให้มากที่สุด แล้วไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครแต่นั้นเอง
“ทำคลิปให้เป็นตัวคุณให้มากที่สุด” อันนี้ต้องทำเลยครับ เพราะเอกลักษณ์ของช่องแต่ละช่องจะแตกต่างกัน และมีผลกับสปอนเซอร์
ช่วงนั้นก็มีหลายงานที่ผมปฎิเสธ ไม่ว่าเขาจะจ่ายเยอะเท่าไหน ถ้าไม่ใช่สไตล์ผม หรือ ไม่เข้ากับตัวผม ผมก็จะไม่รับเด็ดขาด!! ช่วงนั้นมีสปอนเซอร์เกี่ยวกับเบียร์เข้ามาผมไม่รับเลยนะ คิดว่า Youtube ส่วนมากเด็กๆก็จะดูกัน เพราะเปิดสถิติช่อง คนดูกันมากที่สุดจะเป็นช่วงอายุ 18-22ปี แล้วเอาเบียร์มาโฆษณามันก็ไม่ดีถูกใช่ไหมครับ ส่วนตัวผมก็ไม่กินอยู่แล้ว 5555555 (แล้วไอ 18-22ปีเนี่ย มีเด็กปนอยู่เพียบบ!! โกงอายุกันมาสมัครเพียบบ หลายคนก็ทำผมรู้555555)
สงสัยอย่างนึง ทำไมต้องพิมพ์ 555555 ด้วย เดี๋ยวนี้การใช้ 5555555 เหมือนพวกคำลงท้ายอย่างครับ,ค่ะ เพื่อลดความซีเรียสของประโยคเหรอ แต่นี่กระทู้ความรู้นะเฮ้ย อย่าพิมพ์ไปหัวเราะไปสิ ขาดความเชื่อถือหมด
เรื่องการรับ Sponsor อันนี้ก็เห็นด้วยครับ ต้องรับ Sponsor ตาม Content ของเราเอง
มีหลายๆคนถามรายละเอียดหลายอย่าง เช่น กดดูแบบไม่ล๊อคกิน กับล๊อคอิน อันไหนได้มากว่า แล้วก็คำถามต่างๆนาๆที่ประมาณนี้ ผมขอตอบเลยนะครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน 555555 เพราะผมไม่ได้ศีกษาเรื่องนี้อย่างจริงจิง ผมแค่รอรับเงินเดือนเมื่อสิ้นสุดเดือนก็เท่านั้น แล้วก็มาดูว่าเดือนนี้คนดูเท่าไหร่ แล้วก็คิดคร่าวๆ ไม่ได้ไปเจาะลึกขนาดนั้น ต้องขออภัยในตรงนี้นะครับ
รู้เลยว่าเจ้าของกระทู้ขอ Disclaimer เรื่องเน้นหาเงินจาก Sponsor เรื่องหารายได้จาก Google Adsense เจ้าของกระทู้ไม่เชี่ยวชาญ
เอาล่ะ มีเหตุผลที่แย้งอยู่ มาดูกันเลย
ตั้งแต่เดือนเมษายน 2017 (2560) การหาเงินใน YouTube เปลี่ยนไป
กระทู้ที่เจ้าของกระทู้เขียน “สมาชิกหมายเลข 3869535” (ชื่อยาวจริง ขอเรียกว่า นาย 535 แทนดีกว่า) เขียนตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2560 ซึ่งในปีนั้น YouTube มีปัญหากับนายทุนที่ลงโฆษณากับ YouTube เรื่องโฆษณาไปโผล่ในคลิปที่มีเนื้อหาไม่ใช่เรท G (เช่น พวกคลิปโลดโผน, คลิปทะเลาะกัน, คลิปที่มีความรุนแรง, คลิปที่มีคำหยาบคาย ฯลฯ) ซึ่งนายทุนโฆษณาไม่พอใจ ตัดสินใจถอนโฆษณาพร้อมกับทำให้ YouTuber ที่จะได้เงินในเดือนเมษายน 2017 ต้องอดกันตามระเบียบ และโฆษณาไม่เข้า
สาเหตุ มาจากข่าวในเว็บ Blognone ครับ ชื่อข่าว “YouTube เจอปัญหาหนัก แบรนด์ทยอยถอนโฆษณา เพราะมีคลิปรุนแรงมากเกินไป“
AT&T, Verizon, Johnson & Johnson และบริษัทรายใหญ่อื่นๆ ในสหรัฐฯทยอยถอนโฆษณาออกจาก YouTube เหตุเพราะบน YouTube มีคลิปวิดีโอสุดโต่งและหัวรุนแรงมากเกินไป
AT&T ให้เหตุผลว่าที่ต้องถอดเพราะไม่อยากให้โฆษณาของเราปรากฏควบคู่ไปพร้อมกับคลิปวิดีโอสุดโต่งรุนแรงที่สนับสนุนการก่อการร้ายและความเกลียดชัง จนกว่า Google จะแก้ปัญหาอย่างจริงจังและไม่ทำให้คอนเทนต์รุนแรงมาปรากฏบนแพลตฟอร์มอีก ด้าน Sanette Chao ฝ่ายการตลาดของ Verizon บอกเหตุผลว่า ได้รับแจ้งว่าโฆษณาของเราไปปรากฏบนเว็บไซต์ที่เราไม่ได้รับอนุญาต จึงระงับโฆษณาและดำเนินการสอบสวน
ประเด็นนี้เป็นปัญหามาได้ระยะหนึ่งแล้ว เมื่อมีคนพบเจอแบนเนอร์โฆษณาใต้คลิปสนับสนุนกลุ่ม Isis ทาง Google พยายามระงับดราม่าด้วยการให้สัญญาว่าจะแก้ปัญหา ดึงโฆษณาออกจากคลิปต้นเหตุ และให้แบรนด์ควบคุมโฆษณาของตัวเองมากกว่าเดิม แต่ดูเหมือนยังไม่ดีพอสำหรับแบรนด์ต่างๆ จนถึงตอนนี้มีแบรนด์กว่า 250 เจ้าถอนโฆษณาออกจาก Google แล้ว
และในเดือนนั้นทาง YouTube ออกกฎใหม่โดยช่องไหนที่อัพโหลดคลิปและยอดวิวรวม 10,000 ครั้งสามารถสร้างรายได้ ทำให้การหาเงินใน YouTube ยากแล้ว
หลังจากนั้นก็ออกกฎใหม่อีกในต้นปี 2018 ซึ่งเป็นกฎปัจจุบันที่เรารู้จักกันดี คือ “ผู้ติดตาม 1,000 คนขึ้นไป และยอดวิว 4,000 ชั่วโมงขึ้นไป” ไม่ใช่ยอดวิวดู 10,000 ครั้งแล้ว
ถ้าพูดถึงเงินจาก YouTube ที่ได้น้อยอยู่แล้ว จะยิ่งได้น้อยมากกว่าเดิมอีก การที่เจ้าของกระทู้รับเงินจาก Sponsor คือสิ่งที่ YouTuber หลาย ๆ คนทำ จนกลายเป็นเรื่องปกติที่ YouTuber ทำกันอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีครับ และผมเห็นด้วย
เพราะค่าของรายได้ YouTube จาก Google Adsense ไม่ต่างจาก Tip
สิ่งที่ผมสงสัยเจ้าของกระทู้ คือ ทำไมไม่พูดถึงรายได้จาก Google Adsense ที่หดหายไปในเดือนเมษายน 2017
นี่คือเรืองใหญ่มาก ๆ ในวงการ YouTube Creator ในยุคนั้น ผมเชื่อว่าเจ้าของกระทู้ต้องกระทบเหมือนกัน แต่พยายามพูดถึงการหารายได้จาก Sponsor อย่างเดียว ไม่พูดถึงเรื่องใหญ่เรื่องนี้เลย ซึ่งเรทราคาแบบนี้ก็ต้อง 50 50 เพราะไม่ค่อยน่าเชื่อถือตั้งแต่พิมพ์ 55555555 บ่อย ๆ แล้วครับ
แต่เจ้าของกระทู้เค้าเขียนในปี 2017 ซึ่งเป็นปีที่ YouTuber กำลังเกิดแบบกราฟ Exponential
ถ้าเอาข้อแนะนำจากปี 2017 มาพูดในวันนี้ บอกเลยว่า สิ่งที่เจ้าของกระทู้พูด เป็นจริงแค่ 50% และจะน้อยลงเรื่อย ๆ
เพราะจำนวนคนทำใน YouTube ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาก้าวกระโดดมาก หลาย ๆ คนทำคลิปเพื่อจะได้ยอดวิวเรื่อย ๆ
เมื่อก่อน YouTuber ยอดซับ 100,000 คนขึ้นไป นับคนได้ แต่เดี๋ยวนี้ เยอะมาก ๆ
กลายเป็นว่า YouTuber ยอดซับ 1,000,000 คนขึ้นไป นับคนได้แล้ว
แต่ค่าใช้จ่ายในการ PR กับ YouTuber ก็จะสูงขึ้น เพราะเรทราคาระหว่างยอดซัพ 6 หลักกับ 7 หลักแตกต่างกันอยู่แล้ว
และปัญหาคือ Budget ของ Sponsor มีจำกัด ดังนั้น การติดต่อขอสปอนเซอร์ในยุคนี้ไม่ต่างจากการเข้าสมัครงาน มันจะมีการคัดเลือก ซึ่งการคัดเลือกในยุคนี้แตกต่างจากเมื่อปี 2017 พอสมควร
ตัวแปรสำคัญคือ “จำนวนขาประจำ”
บริษัทบางบริษัทหรือ Agency ที่กำลังมองหา YouTuber เป็นสปอนเซอร์ให้จะมองเรื่องเหล่านี้ครับ
- ความถี่ในการลงคลิป
- ชื่อคนที่เข้ามา Comment บ่อย ๆ ในคลิปแต่ละคลิป
- จำนวน Comment คุณภาพ
- ยอดวิว
- เนื้อหาคลิปที่สอดคล้อง
- การสอดแทรกเนื้อหา Sponsor อย่างแนบเนียน
- คลิปรีวิวแบบ Customer Review ก่อนหน้านั้น
- จำนวนยอด Supporter
ดังนั้นปัจจัยที่ Sponsor จะเข้าคือเยอะ และยากอยู่ ไม่ใช่แค่ทำคลิปแล้วยอดซับและยอดวิวเยอะอย่างเดียว เดี๋ยวนี้ ยอดซับไม่ได้เป็นตัวการันตีแล้วว่าช่องมีคุณภาพ ต่อให้ยอดซับเยอะ แต่ถ้าทำคลิปไม่ดี เช่น หายไปนาน ทำคลิปไม่ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย ยอดวิวก็จะน้อยอย่างน่าตกใจ
สิ่งที่ควรให้ความสำคัญมาก ๆ คือ “แฟนคลับระดับแฟนบอย” พยายามยื้อให้เค้าอยู่กับเรานาน ๆ มากที่สุด ยิ่งมีเยอะ ยิ่งดี ซึ่งปัจจัยในการเพิ่มแฟนคลับประเภทนี้ก็แตกต่างจากการสร้างคลิปไปอีก
และที่ให้รักษาแฟนคลับประเภทนี้นาน ๆ เพราะว่า เราจะได้ผู้สนับสนุนของเรารายเดือนซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าคนเหล่านี้เค้าเป็นแฟนตัวยงของเรา
แต่ภาระในการทำคลิปก็จะเยอะขึ้น เพราะเราต้องทำต่อเนื่อง อย่าหยุด เพราะถ้าหยุด มีการถอน supporter แน่นอน และการถอนถือเป็นเรื่องปกติ เพราะใจคนเปลี่ยนได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว
ไหนจะต้องมี Content พิเศษสำหรับ Membership ซึ่งต้องวางแผนการสร้างคลิปให้ดี ๆ
ทางเลือกสื่อเดี๋ยวนี้มีเยอะมากว่าเดิม
ทำ YouTube อย่างเดียวไม่ได้ บางคนที่ดังเพราะบางคนมาจาก Tiktok บาง Instagram บ้าง หรือ Facebook บ้างอะไรบ้าง มีหลากหลายช่องทางครับ
และพวก Platform พวกนี้ เอาจริง ๆ ทำเงินได้นะครับ โดยทำเงินผ่าน Sponsor
ถ้าสมมติทำ YouTube มาหลายปีแล้วยังได้เท่าเดิม ลองไปเปิดใน Platform อื่นดู
ลองทำ Tik Tok หรือ Podcast หรือเขียนบล็อก เอาที่เราถนัดและทำง่ายที่สุด
การทำ Content ที่ดีที่สุด คือเราทำ Content ที่เราถนัดที่สุด และ Content นั้นแฝงด้วย Passion และทำต่อเนื่อง
และควร Service แฟน ๆ ขาประจำต่อเนื่องเช่นกัน
อยากให้ทำ YouTube เพราะสร้าง Power หรือ PR ตัวเองมากกว่ารายได้ดีกว่า
อยากให้คิดถึงตรงนี้ ลืมเรื่องรายได้เยอะ ๆ ไปก่อน
พูดตามตรงนะ เนื้อหาใน YouTube บางคลิปยังน่าเชื่อถือยิ่งกว่าหนังสือบางเล่มอีก (แต่บางคลิปต้องฟังหูไว้หู)
ถ้าทำ YouTube เน้น Sponsor เข้ามา แต่เนื้อหาคลิปไม่ได้ดี สุดท้ายคนดูก็จะหาย
และยิ่ง Algorithm เดี๋ยวนี้อิงตามความสนใจด้วย
ถ้าคนดูเค้าไม่ดูคลิปของเรา สักพัก คลิปในช่องของเราก็จะหายไปจากหน้าหนึ่งของ YouTube และเค้าก็จะลืมเราตลอด
Leave a Reply