เรื่องนี้ผมบ่นไปหลายรอบแล้ว ตั้งแต่ตอนทำ Content ลงใน Blockdit (ปัจจุบันเลิกทำ ทำลงที่ของตัวเองดีกว่า) และก็ได้พูดเรื่องราวนี้ใน Live ใน YouTube แต่ปัญหาของ YouTube คือเนื้อหาที่ลงต้องเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับเกม (และเน้นไปที่เกม Console ใน Platform PlayStation) ลงอย่างอื่น คนไม่ดู ก็เลยอยากระบายเหตุผลที่เดี๋ยวนี้ Facebook มันไม่น่าเล่นเหมือนเมื่อก่อน และต่อให้ Facebook เปลี่ยนหน้าตาให้ใช้งานให้ดียิ่งขึ้น แต่บางอย่างมันก็ยังไม่โอเค และก็ยังน่าบ่นเหมือนเดิม มาดูกันดีกว่าครับ
โพสต์เมื่อ 3-5 วันที่แล้วมันโผล่
ที่ขัดใจอันแรกเลย คือบางโพสต์เมื่อ 3-5 วันที่แล้วเพื่งมาเห็น ปัญหานี้ Facebook ยังไม่มีการแก้ไขอะไรใด ๆ และดูเหมือนจะไม่แก้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ Facebook ต้องทำ คือไม่รู้ว่า Facebook จะดองโพสต์ของเพื่อนหรือคนที่เราติดตามไปทำไม และถ้าโพสต์นั้นเป็นข่าวด่วน หรือ Event ที่ต้องรู้เดี๋ยวนั้นเดี๋ยวนี้ เช่น ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ เรื่องนี้ควรเป็นเรื่องที่ต้องโผล่มาให้เห็น แต่ผ่านไป 3 วัน ผมเพิ่งเห็น
โพสต์ใน Facebook ทุกโพสต์ที่โผล่ใน News Feed ควรโผล่เฉพาะโพสต์ที่ไม่ผ่านไป 1 วัน ถ้าโพสต์ไหนเกินกว่า 1 วัน ไม่ควรโผล่มาให้เห็น บางเรื่องเป็นเรื่องที่พูดถึงสั้น ๆ มาก ๆ
โฆษณาโผล่ซ้ำซาก
เรื่องที่ 2 คือ โฆษณา คือโฆษณาโผล่อันนี้ผมไม่เถียง โผล่มาเลย เพราะเราใช้ของเค้าฟรี แต่ปัญหาคือโฆษณาอันเดิมมันโผล่มาเกิน 3 เวลา / วัน คือโผล่มาแบบน่าเบื่อมาก ซึ่งถ้าไม่อยากเห็นโฆษณาตัวนี้ก็สั่ง Hide Ad ได้ แต่ AI ของ Facebook ที่ว่าฉลาด ๆ เค้าเดาใจของผู้ใช้งานไม่ออกเหรอว่า เฮ้ย โฆษณาตัวเดิมมันโผล่
แต่บางโฆษณามัน Useless จริง ๆ เช่น โฆษณาร้านอาหารแห่งหนึ่ง ผมขอไม่เอ่ยชื่อ คือตัวผมอยู่ต่างจังหวัด แต่โฆษณาก็ยังยิง และพอเช็คดูปรากฎว่า เค้ายิง Ad กับคนที่อยู่ที่กรุงเทพเป็นพื้นที่หลัก แต่ตอนนี้คืออยู่ต่างจังหวัดนานเลย กลายเป็นว่าเป็นการยิง Ad ที่ useless ไปหน่อย แต่อยากบอกว่า ถ้าอยู่กรุงเทพ สั่งไปนานแล้วครับ ดูท่าจะอร่อย
การจัดการ Content ที่ไม่ On Demand อย่างแท้จริง
เหตุผลที่ 3 ผมว่า การจัดเรียง Content ของ Facebook มันค่อย On Demand
ถ้าเป็น On Demand ของยกตัวอย่างดี ๆ อย่างใน Twitter ก็จะอัพเดทเทรนด์ในแต่ละวัน เทรนด์วันไหนไม่น่าดู ก็ไม่เข้าไปอ่าน เทรนด์วันไหนน่าอ่าน ก็เข้าไปดู ส่วนใน YouTube อันนี้มีความเป็น On Demand อย่างแท้จริง คือคลิปที่แนะนำอันไหนในหน้าแรกน่าดู ก็คลิกเข้าไปดู และถ้าดูแล้วไม่ชอบใจ ก็ดูอันอื่น
แต่ Facebook ไม่ได้ให้เวลาตัดสินใจในการเลือกดู Content เลย ทุก Content ที่โผล่มาใน News Feed เหมือนเล่นอัตโนมัติ ไม่ถามสักคำว่าจะให้เล่นหรือไม่ต้องการเล่น ทำให้ Content บน Facebook มันรู้สึก ไม่อยากจะดูและพอเจออะไรแบบนี้มาก ๆ คือ ขยะ ทั้ง ๆ ที่ Content นั้นอาจจะเป็น Content ที่ดีก็ตาม
Refresh Content บน News Feed โดยไม่ได้อนุญาต (ยังดีที่เซฟได้)
คือปัญหานี้ผมบ่นมา 5 ปีที่แล้ว จนปัจจุบัน Facebook ก็ไม่ยอมแก้ และไม่คิดจะแก้ บ่นแล้วบ่นอีก อารมณ์แบบ “ถ้ารัก Facebook ก็ต้องใช้ Facebook ในแบบที่เป็น” ปัญหานี้เกิดขึ้นกับ Facebook ในมือถือครับ คือถ้าเราเล่นแอพอื่นหรือเราปิดหน้าจอเกิน 3 นาที แล้วเข้า Facebook อีกรอบ Facebook จะ Refresh News Feed เองโดยอัตโนมัติ และไม่ใช่แค่แอพ Facebook แอพ Instagram ก็เป็นกับเค้าด้วย ก่อนหน้านั้นคือไม่เป็น และ Instagram คือยิ่งแย่ เพราะ Refresh 2 รอบติดต่อกัน
ทำไมผมซีเรียสกับ Refresh Content เพราะบางที News Feed เอาเรื่องราวดี ๆ ออกมาต่อเนื่อง พอดู Content อันแรกเสร็จ ก็ดู Content อันที่ 2 ต่อเนื่อง แต่จะมี Moment แบบว่า เราดู Content อันแรกเสร็จ ก็ปิดมือถือ หรือเข้าแอพอื่นเพื่อเสพข่าวหรือเรื่องราวของเพื่อน ๆ แต่พอกลับมา Facebook จะดูอันที่ 2 ปรากฎว่า Content อันที่ 2 ที่อยากดูหายไปแล้ว
ปัจจุบัน ดูเหมือน Facebook ยังไม่แก้ไขตรงนี้ และคิดว่าคงไม่แก้ไขตลอดไป ล่าสุด Facebook ออกฟีเจอร์ Save ซึ่งฟีเจอร์นี้มีมาเป็นปีแล้ว คือถ้าเราเจอ Content ไหนโดน ๆ ให้เซฟไว้ครับ สามารถดูได้ในภายหลัง แต่ถ้า Content ไหน เจ้าตัวลบ ก็จะดูไม่ได้
การเข้าไปกดติดตามหรือเป็นเพื่อนใคร คนในลิสต์เพื่อนรู้หมด
กฎในการเล่น Facebook ที่ควรรู้คือ เราไม่เป็นส่วนตัวแล้ว อย่าถามหาความส่วนตัวบนโลกออนไลน์ครับ Facebook ก็เช่นกัน คือถ้าเรากดไลค์เพจไหน ถ้ามีเพื่อนในลิสต์ที่กดเหมือนกัน ก็จะขึ้นโชว์เลยว่ามีเพื่อนคนไหนบ้างที่กดไลค์เหมือนกัน ซึ่งทำให้เรารู้ว่า เพื่อนคนนี้เค้าสนใจอะไรแนว ๆ นี้นะ
แต่ที่ผมไม่ชอบคือ เวลาเราดู Live ของใคร ถ้าเพื่อนเราเข้าไปดู Live เหมือนกันกับเรา ชื่อเราจะโผล่ให้เห็นทันที และโผล่แบบโจ่งแจ้งด้วย
เพื่อน ๆ ไม่ได้เป็น Content Creator
ความหมายของ “เพื่อน ๆ ไม่ได้เป็น Content Creator” คือ สิ่งที่เพื่อนอัพโหลดรูปภาพ Post คำอะไรต่าง ๆ หรือเรื่องราวที่เพื่อนแชร์ มาจากความชอบของเพื่อนล้วน ๆ ไม่ได้แชร์เพื่อให้คนอื่นมีประโยชน์หรือให้คนอื่นชอบไปด้วย และในเมื่อสิ่งที่เพื่อนแชร์เรากลับไม่ชอบ กลายเป็นว่า Content ใน News Feed เป็นขยะ ใช้ไม่ได้ เพราะเราไม่สนใจสิ่งที่เพื่อนแชร์
โพสต์ที่มี Keyword ส่อต่อการขาย โดนโยนเข้า Category โพสต์เพื่อการขายหมด

แม้ว่าจะเป็นโพสต์แนะนำสินค้าก็ตาม ถ้ามีคำอธิบายเข้าข่าย Keyword พวกขายของ ไม่ว่าจะราคา, หน่วยเงิน, ส่งออก, นำเข้า หรืออื่น ๆ ทำนองนี้ คือ “โพสต์เพื่อการขาย” ทั้งหมดโดยที่ Facebook ไม่บอกสักคำว่าเราจะขายของ มันขึ้น Selling something โดยอัตโนมัติ แล้วไม่มีชอยส์ Yes หรือ No
ซึ่งทำให้ยอด Reach ลดลง และจะบีบการมองเห็นเฉพาะคนที่ติดตามเราต่อเนื่องมากขึ้น
ทั้ง ๆ ที่โพสต์นั้นเป็นแค่โพสต์แนะนำเมาส์เล่นเกมที่ Pro Player เลือกใช้ ตลกดี
สิ่งที่ Facebook ยังน่าเล่นอยู่ทุกวันนี้
บ่นมามากแล้ว เอาจริง ๆ สงสัยไหม ทำไมทุกวันนี้เรายังเข้า Facebook อยู่ บางคนอยู่ ๆ ก็ไม่รู้ตัว มือลั่น เข้าเองเฉยเลย ถ้าตอบไม่ได้ว่าทำไมเราชอบเข้า Facebook บ่อยจัง ก็ไม่เป็นไรครับ เหตุผลของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ของผมคือ ผมทำงานธุรกิจครอบครัว เวลาสั่งงานอะไรจะสั่งผ่าน Messenger กัน ไม่ได้สั่งผ่าน LINE เพราะ LINE เข้ายาก ใช้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไร แต่ Facebook มันเข้าง่าย เพียงแค่พิมพ์ f คำเดียวแล้วกด Enter ก็เข้า Facebook แล้ว
สิ่งที่ผมค้นหาจริง ๆ ใน Facebook คือพวกเพจที่ทำ Content ที่เราอยากจะเข้า ซึ่งตรงนี้เป็น On Demand ครับ ใจจริงอยากให้ News Feed ของ Facebook ทำเหมือน YouTube คือถ้าเราดู Content จากเพจไหนบ่อย ๆ Content จากเพจนั้นเดี๋ยวโผล่มาใน News Feed โดยไม่ต้องมากด Follow เพจนั้นเอง อยากให้ Facebook เป็นแบบนี้มากกว่า ก็ต้องรอดูต่อไปครับ
จะทำอย่างไรให้โพสต์ไม่ถูกปิดกั้น
ผมลองวิธีนี้ มันก็ได้ผล แต่สักพักก็ไม่ได้ผลซะแล้ว มันขึ้นอยู่กับว่า เพื่อนเราเล่นเฟสหรือเปล่า หรือเรามีเพื่อนจริง ๆ เยอะไหม เพราะตัวแปรที่โพสต์มองเห็นเยอะ ๆ ขึ้นอยู่กับความสนิทสนมระหว่างเพื่อนที่อยู่ใน List
- เราเข้าไป Comment คนนั้นแล้วคน ๆ นั้น Comment โพสต์ของเรากลับไหม หรือเราเข้าไป Chat เพื่อนคนนั้นบ่อยหรือเปล่า ถ้าทำแบบนี้ เพื่อน ๆ คนนั้นเข้าเห็นโพสต์ของเราแน่นอนครับ
- แต่ถ้าเรา Comment, ชวนพูดคุยกับเพื่อนไปแล้วแต่เค้าไม่ตอบกลับ ถามใจเราก่อนว่าเค้าเป็นเพื่อนกับเราในชีวิตจริงไหม ถ้าไม่คือ ต้องทำใจ
- ความสนิทสนมในโลกความจริงมันมีผลกับใน Facebook ด้วย ซึ่งสิ่งที่ยืนยันว่าเราสนิทกับคน ๆ นั้นคือการออกไปเที่ยวด้วยกันบ่อย ๆ แล้วแท็กรูปของคน ๆ นั้น ซึ่งมันยืนยันว่า สิ่งที่พูดคือความจริง
- Facebook เองอัพเดท Algorithm ให้เราเจอแต่สิ่งที่เราสนใจ โดยระบบอิงจากพฤติกรรมการใช้งาน, การติดตาม, ความสัมพันธ์ของเพื่อนคนนั้น ซึ่งส่งผลกระทบกับ Story ที่ว่า ทำไมทั้ง Facebook กับ Instagram ชอบเอาคนหน้าเดิม ๆ ขึ้น Story เป็นอันดับแรก และเกิด Side Effect ตามมาอย่างเราจะเจอคนหน้าเดิม ๆ เข้ามาดู Story ทุกวัน จนภายหลัง ทั้ง Facebook และ Instagram อัพเดทให้เราสามารถเลือกจิ้มดู Story ของคนแต่ละคนได้อิสระ
- ทัศนคติ “มีอะไรอยากจะพูดก็โพสต์” ควรใช้ใน Facebook ครับ ก็เหมือนเราพูดกับเพื่อน ๆ อย่างเปิดประเด็นอะไรต่าง ๆ ไปเรื่อย แล้วก็ชวนเพื่อน ๆ คุย และยิ่งโพสต์เยอะแล้วเพื่อนคุยตอบกลับ การถูกปิดกั้นก็จะยากยิ่งขึ้น
- จงจำไว้ว่า สิ่งที่โพสต์ เหมือนเราเปิดประเด็นคุยกับเพื่อนคนนั้น
Leave a Reply